7 วิธีเลือกซื้อผลไม้ง่ายๆ อย่างเซียนใน 2 นาที

ประสบการณ์ส่วนตัวกับผลไม้ผิดลูก (ความประทับใจครั้งแรกนั้นสำคัญ)

คุณเคยได้ยินคำเหล่านี้บ้างรึเปล่า? ไม่เห็นอร่อยเลย.. ไม่ชอบ.. ไม่เอาแล้ว.. ไม่กินแล้ว..จากคนที่คุณปลอกผลไม้ให้ ตอนเด็กๆผมเคยบ่นกับคุณแม่ของผมเองหล่ะ (ฮ่าๆๆ) ก็เพราะตอนนั้นมันไม่อร่อยจริงๆน่ะสิ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมได้มีโอกาสกลับมาทานผลไม้ชนิดเดิมที่คุณแม่ผมปลอกให้อีกครั้ง คราวนี้ความไม่ชอบก็อันตรธานหายไปหมดเลย ([คิดในใจ]: ทำไมเราถึงพลาดของดีไปหลายปีเลยนะ??) ผมคิดว่าต้นตอปัญหาที่ทำให้ผมไม่ชอบผลไม้ชนิดนั้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง ไม่ใช่เป็นเพราะว่ารสชาติมันแย่ กินไม่ได้เลย แต่อาจเป็นเพราะว่าองค์ประกอบสำคัญหลายๆอย่างของผลไม้ผลนั้นเปลี่ยนแปลงหรือขาดหายไป ดังนั้นผมไม่อยากให้ตัวคุณเองหรือคนที่คุณรักพลาดผลไม้อร่อยๆเหมือนที่ผมเคย

บทความนี้จึงมีเพื่อแก้ไขปัญหาเล็กๆที่ไม่เล็กหากเกิดบ่อยครั้ง เพียงคุณสละเวลาแค่ 2 นาทีเพื่อทำตาม 7 วิธีเลือกซื้อผลไม้ และเทคนิคง่ายๆ สั้นๆ ก็สามารถเลือกผลไม้ชั้นเยี่ยม พร้อมที่จะสร้างหรือกู้คืนความประทับใจให้กับคนที่คุณรักได้แล้ว

สรุป 7 วิธีเลือกซื้อผลไม้

การเลือกซื้อผลไม้ให้ได้ตามความต้องการของคุณนั้นจริงๆแล้วไม่ยากเลย เพียงแค่ต้องคำนึงถึงหลักสำคัญ 7 อย่างนี้ในขณะซื้อเท่านั้นเอง

สี = ซื้อผลไม้ทีมีสีที่คู่ควรกับผลไม้หรือพันธุ์ เช่น สตอเบอรี่พันธุ์ทั่วไปต้องเป็นสีแดง ไม่ซีดขาว
ก้านหรือขั้ว = ก้านบอกถึงสุขภาพของผลไม้นั้นๆ เขียว = กำลังอร่อย เหี่ยวแห้ง = เก่า
กลิ่น = ซื้อผลไม้ที่มีกลิ่นตามเอกลักษณ์ของผลไม้ชนิดนั้นๆ เช่น เมล่อนต้องมีกลิ่นหอมจากการสุก
ผิว = ซื้อผลไม้ที่ผิวนิ่มหรือแข็งตามลักษณะของผลไม้ชนิดนั้น เช่น แอปเปิลต้องแน่น
ขนาดและน้ำหนัก = ซื้อผลไม้ที่มีขนาดและน้ำหนักสัมพันธ์กัน เช่นผลไม้ขนาดหญ่ต้องหนัก
ฤดูกาล = ซื้อผลไม้ในฤดูกาล เพื่อผลไม้จะผลิตรสชาติและเนื้อที่ได้คุณภาพ
มีเซนส์การซื้อ = ซื้อผลไม้ที่มีความสมบูรณ์ตามลักษณะ ไม่ซื้อผลไม้ที่ช้ำ เน่า ร้าว

ใช้ 7 หลักสำคัญกับเทคนิคด้านล่างพร้อมกันรับประกันได้ถึงความอร่อยของผลไม้ที่คุณเลือก

1. สีของผลไม้

สีเป็นสัญญาณแรกที่คุณควรตระหนัก เพราะว่า สีของผลไม้เป็นสิ่งแรกที่คุณเห็นได้แต่ไกลโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม และคุณไม่มีทางพลาดที่จะไม่สังเกตเห็นมัน สีบ่งบอกถึงความใหม่-เก่า สุก-ดิบ ของตัวผลไม้ สีของผลไม้ยังบ่งบอกเป็นนัยๆว่า รสชาติของผลไม้นั้นอร่อยหรือไม่ ฉะนั้นเวลาคุณเลือกซื้อผลไม้ คุณควรนำสีของผลไม้มาเป็นปัจจัยช่วยในการตัดสินใจ ดังนั้นก่อนคุณจะเลือกซื้อผลไม้ คุณควรจะรู้จักสีของผลไม้ชนิดนั้นอยู่แล้วว่า สีมันเป็นอย่างไร ลักษณะสีนี้ดีหรือไม่ มีลายสีเป็นเส้นๆ เป็นสัญญาณที่ดีรึเปล่า หากคุณมีคำถามว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าสีของผลไม้ชนิดนี้พันธุ์นั้นควรเป็นอย่างนี้อย่างนั้น เราจะบอกเทคนิคง่ายๆในการรู้จักสีของผลไม้ต่างชนิดต่างพันธุ์ด้านล่าง

เทคนิคการดูสีของผลไม้สั้นๆอย่างแม่นยำ เพียง 20 วินาที

ปัจจุบันเราอยู่ในยุคแห่งข้อมูล พูดได้ว่าทุกอย่างที่เราอยากรู้อยู่ใกล้แค่ปลายนิ้วมือ

ใช้ Google ให้เป็นประโยชน์ => พิมพ์ชื่อ ผลไม้ และ พันธ์ุ ตามที่ป้ายระบุหรือตามที่แม่ค้าบอก (ภาษาอังกฤษ หรือ ไทย ก็ดี) ลงในช่องค้นหารูปภาพบน กูเกิ้ล เพียง 20 วินาที คุณจะเห็นผลไม้ชนิดนั้นในสภาวะที่ดีที่สุดของมันก็ว่าได้ เพราะว่า ผู้ผลิต หรือ ผู้จำหน่าย มักจะคัดสรรผลที่ดีที่สุดออกมานำเสนอให้ผู้บริโภคเห็นอยู่แล้ว เพียงแค่นี้คุณก็รู้ วิธีการเลือกซื้อผลไม้ โดยใช้รูปจากกูเกิ้ลเป็นพื้นฐานในการเลือกซื้อแล้ว

2. ก้านหรือขั้วของผลไม้

ก้านหรือขั้วที่โดยส่วนใหญ่มีตำแหน่งอยู่ที่ส่วนหัวของผลไม้ เป็นสัญญาณของการสุก-ดิบ ของผลไม้ โดยปกติแล้วก้านผลไม้จะถูกตัดเพื่อความสะดวกของการลำเลียงและจัดส่งผลไม้ แต่หากคุณสังเกตเห็นก้านผลไม้ เพียงแค่คุณตรวจสอบสีหรือรูปทรงของก้านคุณก็สามารถบอกได้แทบจะทันทีเลยว่าผลไม้ลูกนี้ควรซื้อหรือไม่

หากคุณพบผลไม้มีก้านสีเขียวแปลว่า ผลไม้นั้นสุกแล้วพร้อมรับประทาน
หากคุณพบผลไม้มีก้านสีเขียวแต่ลูกผลไม้นั้นแข็งแสดงว่าถูกเก็บก่อนสุก
หากคุณพบผลไม้มีก้านแห้งเหี่ยวแปลว่าผลไม้ลูกนั้นเก่าแล้ว ถูกเก็บมานานแล้ว รสชาติอาจจะเจือจาง
หากคุณไม่พบผลไม้มีก้าน 1. ก้านถูกตัดทิ้ง 2.ผลไม้สุกมากจนก้านหลุดออกไปแล้ว (ซึ่งการที่จะตรวจสอบต่อไปต้องพึ่ง 4 วิธีด้านบน)

วิธีการเลือกซื้อผลไม้ จากกลิ่น — Designed by borjandreu / Freepik

3. กลิ่นของผลไม้

กลิ่นของผลไม้บอกคุณได้เยอะเลยทีเดียว รสชาติหวาน-หวานจางๆ สุก-ดิบ เน่า-ไม่เน่า เวลาคุณกินผลไม้คุณได้กลิ่นของมันใช่ไหมหล่ะ เหมือนกันกับการดมกลิ่นผลไม้แหละ แต่ทว่าการดมนั้นได้กลิ่นแค่เศษเสี้ยวของกลิ่นทั้งหมดของผลไม้เท่านั้น แต่แค่นั้นก็เพียงพอที่จะบอกถึงความสมบูรณ์ของมันได้แล้ว มนุษย์แทบทุกคนมีความสามารถพิเศษอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว อย่างเช่น คุณสามารถบอกได้ทันทีถึงความมีพิรุจน์หรือความหอมจากเพียงแค่การได้กลิ่นของผลไม้ ผลไม้ที่สุกอาจจะมีกลิ่นหอมกว่าเพื่อน ผลไม้ที่ใกล้เน่าอาจจะส่งกลิ่นเหม็นโชยออกมาแต่ไกล แต่ว่าคุณจะรู้ได้อย่างไรว่ากลิ่นของผลไม้นั้นเป็นอย่างไร แล้วแบบไหนหล่ะถึงเรียกว่าดี อ่านต่อที่เทคนิคการเลือกซื้อผลไม้ได้เลย!

เทคนิคง่ายๆกับการเลือกซื้อผลไม้จากกลิ่น

ใช้ประสบการณ์ตรงของคุณ => คุณสามารถเลือกหยิบผลไม้ขึ้นมาพิสูจน์ทีละลูกๆ เพื่อเข้าใจว่าลักษณะกลิ่นโดยรวมของมันเป็นอย่างไร แล้วใช้คำว่า ที่สุด เลือกผลไม้ลูกนั้น เช่น หอมหวานที่สุด กลิ่นแรงที่สุด (แปลกที่สุด กับ เหม็นที่สุด ควรหลีกเลี่ยง)

ข้อควรระวัง!!!

หากซื้อผลไม้ในจำนวนมากอาจจะต้องใช้ความพยายามค่อนข้างเยอะพอสมควรเพราะต้องถึงกับหยิบขึ้นมาพิสูจน์ทีละลูกๆ แถมยังอาจจะดูไม่ดีในสายตาผู้บริโภคอื่นๆรอบข้าง ฉะนั้นจงทำอย่างพอดีและไม่ทำให้ผลไม้เสีย หรือ ช้ำ

3. ผิวของผลไม้

ผิวของผลไม้บ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่ผลไม้ลูกนั้นพบเจอมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของผลไม้ที่คุณจะได้รับ คิดง่ายๆว่าผลไม้ก็เหมือนมนุษย์ ที่หากถูกเลี้ยงมาไม่ดีก็เฉา ไม่สวย ไม่น่าเข้าใกล้ ไม่แข็งแรง แต่หากถูกเลี้ยงมาดีก็แข็งแรง มีออร่า สวยงาม น่าเข้าใกล้

หากลูกผลไม้มีผิวสวยตามคุณลักษณะของตัวมันเอง แสดงให้เห็นถึงการดูแลเอาใจใส่ของผู้ผลิตถึงผู้จัดจำหน่าย ผลไม้ลูกนั้นๆน่าซื้อ
หากลูกผลไม้มีผิวช้ำ จุด แต้ม รอยเล็บ หรือ นิ่มเกินไป อาจแสดงให้เห็นถึงการละเลยหรือการกระแทกซึ่งจะส่งผลกระทบถึงเนื้อข้างในให้เสียหายได้
หากลูกผลไม้มีเชื้อราเกาะ อาจแปลว่า ผลไม้ลูกนั้นถูกจัดจำหน่ายมานานแล้ว (เก่า) ซึ่งกรณีที่เจอควรสังเกตลูกข้างๆเช่นกันเพราะ เชื่อมักแพร่กระจายสู่ลูกอื่นด้วยเช่นกัน

เทคนิคการตรวจสอบผิวของผลไม้

คุณควรหมุนลูกผลไม้ดูรอบๆ และ ใช้มือบีบ เคาะ หรือ เขย่า เบาๆ (เบามากๆเพื่อไม่ให้เกิดการเสียหายต่อผลไม้) เพื่อการตรวจสอบอย่างละเอียด

4. ขนาดและน้ำหนักของผลไม้

ขนาดและน้ำหนักของผลไม้เป็นปัจจัยที่สำคัญมากเช่นกัน คุณเคยได้ยินคำว่ามีแต่เปลือกรึเปล่า? เลือกซื้อผลไม้ที่สวยที่สุดบนชั้นวางมา แต่ปลอกออกมากลับกลวงซะอย่างนั้น ผลไม้ที่ดีควรจะมีน้ำหนักที่เข้ากับขนาดของมัน หรือ หนักกว่า

ผลไม้ที่น้ำหนักหนักกว่าขนาดของมันแสดงให้เห็นถึงความแน่นของเนื้อของผลไม้
ผลไม้ที่มีน้ำหนักเข้ากับขนาดแสดงให้เห็นถึงความสมส่วนของเนื้อของตัวผลไม้
ผลไม้ที่น้ำหนักเบากว่าขนาดแสดงให้เห็นถึงความขาดแคลนของเนื้อผลไม้

เทคนิคการเลือกซื้อผลไม้จากขนาดและน้ำหนักอย่างเชี่ยวชาญ

หยิบผลไม้ 2 ลูกที่ ชนิดเดียวกันและขนาดใกล้เคียงกัน วางไว้บนมือ 2 ข้าง ช่างหาน้ำหนักที่เป็นมาตราฐานแล้วเลือกลูกที่หนักกว่า
หากมีเครื่องช่างใกล้ๆตัว นำผลไม้ลูกที่ต้องการไปชั่งหาน้ำหนักเพื่อเปรียบเทียบกับลูกอื่นๆ

6. ฤดูกาลของผลไม้

การที่คุณซื้อผลไม้ในช่วงฤดูกาลโดยเฉพาะต้นฤดูกาลนั้นสามารถช่วยให้คุณได้รับผลไม้ที่ดีที่สุด มีคุณภาพที่สุด และได้รสชาติที่ยอดเยี่ยมที่สุดของผลไม้ชนิดนั้นๆ เพราะว่า ในช่วงฤดูกาลของผลไม้ อุณหภูมิ ความชื้น และปริมาณแสงแดดจะอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมกับของผลไม้แต่ละชนิด ซึ่งทำให้ผลไม้สร้างผลลัพท์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวมันเอง มากไปกว่านั้นปัจจุบันความต้องการของผลไม้ตามฤดูกาลของผู้บริโภคนั้นสูงขึ้น ส่งผลทำให้ผู้ผลิตขยายการผลิตให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งบางครั้งทำให้ ผู้บริโภคอย่างคุณได้ซื้อผลไม้คุณภาพที่ดีในราคาถูก ในทางกลับกัน การซื้อผลไม้นอกฤดูกาลส่งสัญญาณบอกถึง การเก็บผลไม้ก่อนสุก และ การกักเก็บผลไม้อยู่ในตู้เย็นที่กินเวลายาวนาน ซึ่งสองอย่างนี้ผนวกรวมกันทำให้คุณภาพของผลไม้ถดถอยและรสชาติเปลี่ยนแปลงไป

เทคนิคการตรวจสอบฤดูของผลไม้แต่ละชนิด

ศึกษาเรียนรู้จากเว็บต่างๆ เช่น เว็บภาษาอังกฤษ

7. มีเซนส์ในการเลือกซื้อผลไม้

มนุษย์ทุกคนมีสัญชาตญาณอยู่แล้วว่าอะไรดีไม่ดี ไม่มีใครซื้อผลไม้เน่าๆ ไปรับประทานหรอกจริงไหม แต่ความมีประสิทธิภาพของเซนส์ในการเลือกซื้อผลไม้ของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้ ส่วนมากเกิดจากความเร่งรีบ ความไม่รอบคอบ หรือ เลือกซื้อจากผู้จัดจำหน่ายที่ไม่ได้มาตราฐาน ทางแก้ก็คือ คุณแค่ต้องใช้เวลา ไม่เร่งรีบ ในการเลือกซื้อผลไม้ ศึกษาจนเกิดความชำนาญ อีกเซนส์ที่ช่วยให้คุณมั่นใจได้เลยว่าผลไม้ที่คุณซื้อนั้นมีคุณภาพจริงๆคือการเลือกซื้อผลไม้จากผู้จัดจำหน่ายที่ได้มาตราฐาน ไม่คดโกง และ มีประสบการณ์ สามารถให้คำแนะนำได้เป็นอย่างดี การที่เลือกซื้อจากผู้จัดจำหน่ายที่ดี เหมือน มีคนทำทุกขั้นตอนที่กล่าวไปข้างต้นให้ฟรีๆ โดยที่คุณแค่ต้องตรวจสอบดูอีกครั้งเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวคุณเอง